การประกันตัวผู้ต้องหาชั้นสอบสวน

ประกันตัวในชั้นสอบสวน

เมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะต้องขอประกันตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก วิธีปฎิบัติ คือ ทำคำร้องยื่นต่อพนักงานสอบสวนที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของคดีหรือไม่ก็ตาม หากเขียนคำร้องเองไม่ได้ พนักงานสอบสวนจะส่งให้เจ้าหน้าที่ช่วยเขียนคำร้องให้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

*** สำคัญ ! **** เมื่อพนักงานสอบสวนรับคำร้องแล้ว ให้ขอหลักฐานการรับสัญญาประกันซึ่งต้องลงเวลารับคำร้องไว้ด้วย

เจ้าพนักงานจะพิจารณาสั่งคำร้องภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่รับคำร้อง หาล่าช้าเกินหรือไม่ได้รับความสะดวก ก็เข้าหาสารวัตรหรือหัวหน้าสถานีตำรวจ แจ้งเรื่องให้ทราบทันที

ในกรณีที่ท่านต้องการประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในชั้นสอบสวน ท่านควรมีหลักฐานต่างๆ ดังต่อไปนี้ติดตัวไปด้วยคือ

1.บัตรประจำตัวประชาชน
2.หลักทรัพย์ที่จะใช้เป็นหลักประกัน ได้แก่
2.1 เงินสด (เงินตราของรัฐบาลไทยเท่านั้น)
2.2 โฉนดที่ดินซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินได้ประเมินราคาแล้วหรือ พนักงานสอบสวนเชื่อว่าที่ดินมีราคาไม่น้อยกว่าสองเท่าของ จำนวนเงินที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน
2.3 หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก ) ซึ่ง เจ้าพนักงานที่ดินได้ประเมินราคาแล้ว หรือพนักงานสอบสวน เชื่อว่าที่ดินมีราคาไม่น้อยกว่าสองเท่าของจำนวนเงินที่ให้ไว้สัญญาประกัน
2.4 พันธบัตรรัฐบาล
2.5 สลากออมสินและสมุดฝากเงินธนาคารประเภทประจำ
2.6 ใบรับเงินฝากประจำของธนาคาร
2.7 ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารเป็นผู้จ่าย และธนาคารผู้จ่ายได้รับรองตลอดไปแล้ว
2.8 ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารเป็นผู้จ่าย และธนาคารผู้จ่ายได้รับรองตลอดไปแล้ว
2.9 เช็คที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่ายหรือรับรอง
2.10 หนังสือรับรองของธนาคาร เพื่อชำระเบี้ยปรับแทนใน กรณีที่ผิดสัญญาประกัน
3.ในกรณีที่ผู้ยื่นขอประกันมีครอบครัวแล้วจะต้องทำหนังสือแสดง การอนุญาตจากสามีหรือภรรยาแล้วแต่กรณีไปด้วย

 วิธีการปฏิบัติ

1.ให้ผู้ที่จะมาขอประกันตัวผู้ต้องหาพบและยื่นคำร้องต่อ พนักงานสอบสวนที่จะปฎิบัติหน้าที่อยู่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของคดีหรือไม่ก็ตาม 2.หากไม่อาจเขียนคำร้องประกันได้เองให้ร้องขอต่อพนักงานสอบสวนเพื่อสั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเขียนคำร้องให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ 3.เมื่อพนักงานสอบสวนรับคำร้องแล้ว ให้ขอหลักฐานการรับสัญญาประกันซึ่ง ต้องลงเวลารับคำร้องไว้ด้วย
4.เจ้าพนักงานจะพิจารณา แจ้งผลการสั่งคำร้องให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่ เวลาที่รับคำร้อง
5.หากไม่ได้รับความสะดวกหรือล่าช้า ให้รีบเข้าพบแจ้งต่อสารวัตรหรือสารวัตร หัวหน้างานคนใดคนหนึ่งทราบทันที
6.ในการยื่นและขอประกันตัวผู้ต้องหานี้เป็นดุลยพินิจของเจ้าพนักงานตำรวจที่ะให้ประกันหรือไม่ให้ประกันก็ได้โดยจะพิจารณาถึง
6.1 ความหนักเบาแห่งข้อหา
6.2 พยานหลักฐานที่สอบสวนไปแล้วมีเพียงใด
6.3 พฤติการณ์ต่างๆ แห่งคดีเป็นอย่างใด
6.4 เชื่อถือผู้ร้องขอประกันได้เพียงใด
6.5 ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราว มีเพียงใด หรือไม่ ผู้ต้องหาน่าจะหลบหนีหรือไม่
7.หากพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวไปได้ก็จะนำัสัญญาประกันและผู้ยื่นประกันลงบันทึกประจำวันไว้
  เป็นหลักฐาน
8.หากเจ้าพนักงานตำรวจไม่อนุญาตให้ประกัน อันสืบเนื่องจากเหตุใน ข้อ 6 ก็จะแจ้งให้นายประกันทราบและคืนหลักทรัพย์ไป


   การใช้บุคคลเป็นประกัน

         คำสั่งกรมตำรวจ ที่ 622/2536 ลงวันที่ 15 เมษายน 2536 เรื่อง การใช้บุคคลเป็นประกัน หรือหลักประกันในการปล่อยชั่วคราว กระทรวงมหาดไทยและกรมตำรวจ มีนโยบายอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการใช้บุคคลเป็นประกันหรือ หลักประกันในการปล่อยชั่วคราวตามนัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 110 และมาตรา 114 วรรคสอง
  บุคคลวงเงินประกัน
– ข้าราชการพลเรือนระดับ 3 ถึง 5 หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า
– ข้าราชการทหารหรือตำรวจที่มียศ ตั้งแต่ร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี หรือร้อยตำรวจตรีถึงพันตรี นาวาตรี นาวาอากาศตรีหรือ
  พันตำรวจตรี
– ข้าราชการบำนาญตั้งแต่ระดับ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
– พนักงานรัฐวิสาหกิจในระดับเดียว กับข้าราชการประจำ
– สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
– สมาชิกสภาจังหวัด
– สมาชิกสภาเทศบาล
– สมาชิกสภาเมืองพัทยา
– สมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร
– กรรมการสุขาภิบาล
– กำนัน ทำสัญญาประกันผู้อื่นหรือตนเอง ได้ในวงเงินไม่เกินหกหมื่นบาทบุคคล วงเงินประกัน
– ผู้ใหญ่บ้าน
– ข้าราชการพลเรือนระดับ 6 ถึง 8 หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า
– ข้าราชการทหารหรือตำรวจที่มียศ ตั้งแต่พันโท นาวาโท นาวาอากาศโทหรือพันตำรวจโทถึงพันเอก นาวาเอกนาวาอากาศเอก
  หรือพันตำรวจเอก
– ข้าราชการตุลาการหรืออัยการตั้งแต่ ชั้น 1 ถึง 2
– พนักงานรัฐวิสาหกิจในระดับเดียว กับข้าราชการประจำ ทำสัญญาประกันผู้อื่นหรือตนเองได้ในวงเงินไม่เกินสองแสนบาทบุคคล
  วงเงินประกัน
– ผู้ใหญ่บ้าน – ข้าราชการพลเรือนระดับ 9 ถึง 10 หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า
– ข้าราชการทหารหรือตำรวจที่มียศ ตั้งแต่พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอกหรือ พันตำรวจเอกที่ได้รับ  อัตราเงินเดือนพันเอก
  (พิเศษ) นาวาเอก(พิเศษ) นาวาอากาศเอก- (พิเศษ)หรือพันตำรวจเอก(พิเศษ)
– ข้าราชการตุลาการหรืออัยการตั้งแต่ ชั้น 1 ถึง 2
– พนักงานรัฐวิสาหกิจในระดับเดียว กับข้าราชการประจำ ทำสัญญาประกันผู้อื่นหรือตนเองได้ในวงเงินไม่เกินสองแสนบาทบุคคล   วงเงินประกัน
– ข้าราชการพลเรือนระดับ 11 หรือข้าราชการอื่นที่เทียบเท่า
– ข้าราชการทหารหรือตำรวจที่มียศ ตั้งแต่พลโท พลเรือโท พลอากาศโท หรือพลตำรวจโท
– ข้าราชการตุลาการหรืออัยการตั้งแต่ ชั้น 5 ขึ้นไป
– พนักงานรัฐวิสาหกิจในระดับเดียว กับข้าราชการประจำ
– สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการการเมือง หรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำสัญญาประกันผู้อื่นหรือตนเองได้ในวงเงินไม่เกินสอง
   แสนบาท
– ให้ผู้ที่ขอทำสัญญาประกันแสดงบัตรประจำตัวต่อพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ พิจารณาอนุญาตโดยไม่ชักช้า
– ในกรณีจำเป็นเพื่อทราบเกี่ยวกับสถานะระดับอัตราเงินเดือนหรือภาระผูกพันอื่นใดอาจให้ผู้ยื่นประกันแสดงหนังสือรับรองจากต้น
   สังกัดและภาระผูกพันนั้น ภายในห้าวันนับตั้งแต่วันที่ได้ รับอนุญาตให้ประกัน
– กรณีบุคคลใดได้ทำสัญญาประกันผู้อื่นหรือตนเองไว้แต่หลักระกันยังไม่เป็นการพียงพอให้ใช้บุคคลอื่นที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด
  ไว้หรือใช้หลักทรัพย์อื่นเป็นหลักประกันเพิ่มเติมได้