เส้นบางๆ ระหว่าง ‘ประมาท’ กับ ‘ทุจริต’ ที่ข้าราชการต้องรู้”
เคยไหมครับ? นั่งทำงานอยู่ดีๆ มีเอกสารกองโตมาวางตรงหน้า พร้อมคำว่า “นายรีบเซ็นหน่อยครับ เรื่องด่วน!” คุณเซ็นไปเพราะความไว้วางใจ หรือเพราะงานเร่งรีบ แต่หารู้ไม่ว่า… ลายเซ็นนั้นอาจพาคุณไปยืนอยู่หน้าบัลลังก์ศาลอาญาทุจริตฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ในฐานะทนายความที่ดูแลคดีทุจริตมาหลายคดี ผมพบว่าจำเลยจำนวนมาก “ไม่ได้โกงเงินเข้ากระเป๋าตัวเองแม้แต่บาทเดียว” แต่กลับต้องโทษจำคุก เพราะข้อกฎหมายที่ชื่อว่า ป.อ. มาตรา 157
🔴 จุดตายอยู่ที่ “เจตนา” ในทางกฎหมาย คดีอาญาทุจริตจะเอาผิดได้ ต้องพิสูจน์ให้เห็นถึง “เจตนาทุจริต” หรือ “เจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหาย”
- ❌ ทำงานผิดพลาด/บกพร่อง/ประมาทเลินเล่อ = อาจเป็นความรับผิดทาง “วินัย” หรือ “ละเมิด” (ชดใช้เงิน) แต่ไม่ติดคุก
- ⚠️ รู้ว่าผิดระเบียบแต่ยังทำ/เอื้อประโยชน์พวกพ้อง = นี่คือ “อาญา” (เสี่ยงคุก)
🛡️ วิธีเอาตัวรอด เมื่อถูกไต่สวน (ป.ป.ช./ป.ป.ท.) หากวันหนึ่งคุณได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่การตกใจ แต่คือการตั้งสติและเตรียม “ข้อต่อสู้” ให้ถูกจุด:
- อย่าเพิ่งรีบรับสารภาพ ว่าทำผิดเพราะความกลัว
- รวบรวมพยานหลักฐาน ที่แสดงให้เห็นว่า ณ ขณะนั้น คุณทำไปตามระเบียบที่เข้าใจ หรือมีคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ
- พิสูจน์ความสุจริต ว่าคุณไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากการเซ็นนั้น
⚖️ สรุป: การทำงานราชการมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนั้นบริหารจัดการได้หากคุณแม่นข้อกฎหมาย หรือมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญ คดีทุจริตไม่ใช่แค่เรื่องของคนโกง แต่เป็นเรื่องของคนทำงานที่ต้องระวังตัว
“เพราะความยุติธรรม… ต้องเริ่มจากการต่อสู้ที่ถูกวิธี”
